เนื่องจาก ตัวผมเอง เคยเรียน ม. ปลายที่ จ. กระบี่ (จบ ปี 2000)
และ มีโอกาศได้ไปเที่ยวกระบี่ บ่อยๆ
ผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าตัวผมเองนี้คุ้นเคยกับสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่พอสมควร
แล้ววันหนึ่ง พอดี อ.ธรรมศาสตร์ ท่านหนึ่งเค้าจะไปเที่ยว กระบี่
ผมก็เลยเขียนเทคนิคเที่ยวกระบี่ จากประสพการณ์ตรงของผมเองให้เค้าได้อ่าน
ก็เลย เอามาฝากให้
ได้อ่านเทคนิคของผมกันนะครับ
( ผมไม่อยาก เอารูปลงเยอะ เพราะผมถ่ายรูปไม่สวย และใช้กล้องมือถือถ่าย
ดังนั้น เอา keyword ที่พิมพ์ไว้ ไปค้นจาก google image เอาเลยนะครับ
เช่น เกาะพีพี , สระมรกต เป็นต้น )
##########
ของกินพิเศษ
###########
- หอยชักตีน (แต่ก่อนมีที่กระบี่ที่เดียว .. แต่เดี๋ยวนี้มีขายหลาย จว. แล้ว)
ภาพประกอบ
##########
เทคนิคหาที่พัก
###########
หากเที่ยวแบบประหยัดๆ คนน้อยๆ ให้มาช่วงปลายฝนต้นหนาว (ช่วงสิงหา)
เพราะ ยังไม่ทันเข้าหน้าไฮ
ข้อดี
- ราคาที่พักจะยังถูกอยู่
ยกตัวอย่าง ห้องพักหน้า โล ราคาอยู่ที่ 800 บาท
แต่พอหน้า ไฮ หรือ พีค ไอ้ห้อง 800 เดิมนั่นจะมีราคาถึง 2200-2500 เลยทีเดียว
- ไม่ต้องแย่งเที่ยว แย่งกิน
ร้านอาหารก็คนไม่เยอะ ไม่เจอปัญหารออาหารนาน
ที่เที่ยวก็ยังไม่มีกรุ๊ปทัวว์ จะได้ไม่ต้องเจอ หาดทรายที่แทบจะไม่มีทางเดิน
ข้อเสีย
- เนื่องจาก มันเพิ่งหมด ฤดูมรสุม
ดังนั้น จะมีพวกเศษไม้แห้ง จะลอยเกลื่อน ตาม มุมๆ เกาะ
ทำให้ อาจจะไม่สวยอย่างหน้าไฮ
(เพราะ ลมมันพัดเศษไม้ ลอยมาติดไว้ตามอ่าว หรือ ตามมุมๆเกาะ // ดูทิศทางลม+น้ำ เอานิดหนึ่ง)
- คนน้อยทำให้อาหารตามีน้อย (ข้อนี้ อาจจะเป็นปัญหาสำคัญสำหรับ หนุ่มหื่น เอ้ย หนุ่มโสด)
คุณซาบซึ้ง
###########
ตัวเมือง
ถนนคนเดิน, ตัวเมือง, เขาขนาบน้ำ, วัดแก้ว, ห้าง, ตลาด
ไฟแดงและจุดถ่ายรูปคู่รูปปั้นต่างๆ, ไน๊บาซ่า, ฯลฯ
###########
- ถ้าไม่มีรถ แนะนำ นอน รร. ซิตี้ ในตัวเมือง
เพราะโรงแรมนี้ อยู่กลางตัวเมือง
เดินได้ทั่วทิศ (จุดเดินเที่ยวในเมืองของกระบี่ มีไม่ไกลมาก)
(ราคา 550-900/คืน แล้วแต่ว่าเส้นใครในการจอง)
ถ้ามีรถ .. ก็ออกห่างตัวเมืองมาอีก หาเอาเลย 550-1200 มีเยอะแยะ
ข้อดีชอง รร. ซิตี้(ในสายตาผม)
- หน้าโรงแรมมี 7-11
- ด้านซ้ายของ รร. มี โว๊ก(ห้าง) [ตอนกลางคืน โรตี หน้าห้างนี้ เด็ดมาก ฟันธง]
- สะดวกเรื่อง ร้านข้าว
- ตลาดหน้าโรงแรม(ทุกคืน) เผื่ออยากกินผลไม้ตามฤดูราคาไม่แพง
- ถนนคนเดิน(ศ.-อา.) ดูพวกของฝาก
- ขวาของโรงแรมซัก 50เมตร เป็นทะเล
(เดินได้ยาว ไปด้านเขาขนาบน้ำ จะมี ไน๊บาซ่าของกระบี่)
สรุป
มันเดินไปได้ทั่วทุกจุด ไม่ไกลมาก
ในตัวเมือง คงมีแค่นี้ … ถ้าขับรถรอบๆ มันจะมี ถนนเส้นหลัก 3 เส้น
เน้น ตั้งหลักเส้นกลาง(หน้าห้างโว๊ก)แล้วเน้นจำ ไฟแดง
เพราะ แต่ละไฟแดง เอกลักษณ์จะไม่เหมือนกัน
(หน้าห้างโว๊กจะเป็นรูปมนุษย์โบราณ)
ภาพประกอบตัวเมือง จิ๊กมาจากไหนไม่รุ้
###########
ทะเล[ฝั่ง] 1 วัน .. ไม่ค้าง
อ่าวนาง,หาดนพรัตธารา, สุสานหอย, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(มีปลานีโม่)
###########
ออกจากเมือง มาทางทะเล 18 กิโล
จะเป็น อ่าวนาง, หาดนพรัตธารา, สุสานหอย, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(มีปลานีโม่)
(สำหรับผม .. แค่ ถ่ายรูปเอาเพลินๆ ประมาณว่ากูเคยมาแล้วพอได้[จากความที่ไปมาหลายครั้ง ก็จะไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ - -''])
*ทริก
- หากน้ำลง พวกเกาะ ที่เห็นจากหาดนพรัตฯ จะสามารถเดินได้ถึงเกาะ
ดังนั้น แนะนำว่า เวียนจาก สุสานหอย->พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ->อ่าวนาง->หาดนพรัตธารา
จะไม่เสียเวลาในการขับรถ
- พระอาทิตย์ตกน้ำทะเล .. (ภาพตรงนี้ ถ้าน้ำขึ้นสวยครับ … แต่ถ้าน้ำลงหาดทรายจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่)
###########
ทะเลเที่ยว 4 เกาะ 1 วัน ไม่ค้าง
จะมีที่เที่ยว 4 เกาะ (ปอดะ[1เกาะ], ไร่เลย์, ทะเลแหวก[3เกาะ])
###########
ออกทะเล จาก อ่าวนาง
หากเหมาเรือหางยาว (จุได้ 8 คน) จะอยุ่ที่ วันละ 2,500
ส่วนพวกสปีทโบ๊ทจะอยู่ที่วันละ หมื่นกว่าๆ (18-20 คน)
กรณีเหมา .. แนะนำว่าออกจากฝั่งตั้งแต่เช้า (อย่าให้เกิน 9 โมง)
คำแนะนำ
ซื้อของกิน ตุนลงไปในเรือด้วย, ขนมปังไว้ให้ปลาด้วย
*ทริก
- ให้ไปถ้ำพระนาง และ เดินเที่ยวที่ ถ้ำพระนาง
ด้านข้างๆ ถ้ำพระนาง สามารถเดินไปหาดไร่เลย์ตะวันออกได้
(แต่ถ้าเหมาเรือไป 4 เกาะ ไม่ต้องสำรวจหาดไร่เลย์ ตะวันออก+ตะวันตก
เพราะมันกว้าง แค่เดิน มาถ่ายรูปหาดฝั่ง ตะวันออก พอ)
จุดนี้ ถ่ายรูปเล่นเสร็จ เล่นน้ำที่นี่ได้ตั้งแต่เช้าจนก่อนเที่ยง
เพราะ แดดจะไม่ร้อน เพราะ มีภูเขาบังแดดให้เล่นน้ำเพลินๆ
แต่น้ำตรงนี้ ยังไม่ใสเท่า ปอดะ หรือ ทะเลแหวก (ค่อยไปเล่นที่นู้นเพื่อล้างตัว ตอนบ่ายๆ เย็นๆ)
พอเบื่อ หรือ น้ำเริ่มลง ให้ไปทะเลแหวก
แล้วค่อยมาเล่นน้ำที่ ปอดะตอนเย็นๆ (จะเป็นการหลบร้อน และ เล่นน้ำได้นาน โดยไม่เพลียและไม่กลับมาป่วย)
แต่ถ้าเบื่อแล้ว แต่น้ำยังไม่ลง ก็เล่นที่ ปอดะ ด้านหลังก่อน แล้วรอน้ำลง ค่อยไป ทะเลแหวก
- ด้านหน้าเกาะปอดะกับหลังทะเลแหวก ปลาเสือจะคุ้นคน
ถ้าเอาขนมปังใส่ในชูชีพ มันตามเข้า ชูชีพเลยแหละ[คุ้นหรือตะกละ ไม่รู้แฮะ]
- ด้านหลังเกาะปอดะ ปลาเสือจะไม่เข้าใกล้คนรัศมี 1 ช่วงตัว – -”
เดาว่าเพราะมีคนมาแอบจับบ่อยๆ (ผมเคยเห็น มีคนเอาสวิงช้อน ตอนช่วงหน้า โล)
- ด้านหลังเกาะปอดะ มีถ้ำเล็กๆ อยุ่ มีหาดทรายเล็กๆ เล่นน้ำได้ .. (แต่มีหิน นิดหน่อย)
ภาพตรงนี้ผมว่าสวย ต้องถ่ายหลังเที่ยง แดดจำคล้อยมาทางฝั่งนี้พอดี
และถ้าเป็นจังหวะน้ำขึ้น จะสวยกว่าเดิม (แต่บางที เรือแมร่งจอด .. บังวิวทิวทัศน์ นะ)
- ต้องไปทะเลแหวกตอนช่วงน้ำเริ่มลง
จะสามารถเดินถึงกันได้ ทั้ง 3 เกาะ
###########
เที่ยวทะเลเกาะ พีพี 2 วัน ค้าง 1 คืน
###########
ขึ้นเรือที่ท่าเรือน้ำลึกกระบี่ (หรือจะมาจาก ภูเก็ตก็ได้)
*ทริก
- พอถึงเกาะ(พีพีดอน) ให้หาที่พัก กะ เดินเที่ยวรอบเกาะก่อนเลย ยังไม่ต้องไปดำน้ำ
- หากไปหน้าร้อน แต่ละ โรงแรม จะเปิดน้ำจืดครึ่งเช้า/หลังจากนั้น น้ำทะเล
ดังนั้น อาจจะต้องซื้อน้ำ ขวดขุ่นไว้ล้างหน้าและแปรงฟัน (มี 7-11 บนเกาะ 2 สาขา)
- ตอนเย็นวันแรก ให้ไป วิวพ้อย จะมี พระอาทิตย์ตกน้ำ (วิวสวย และ เห็นทั้งเกาะ)
- ร้านอาหารบริเวณกลางๆเกาะราคาไม่แพง[จำชื่อร้านไม่ได้]
- ตัวเกาะพีพีดอน เส้นทางหลัก จะเป็นทางเดินรอบเกาะ
ซึ่งตรงกลางเกาะ จะซอยย่อยๆ หากใช้เวลาเดินดู อาจจะซัก 4-5 ชม. น่าจะทั่ว
แต่ถ้า ใช้คารมจน ยืมจักยาน พวกพนักงานที่อยู่ตามที่ๆเราไปพักได้
(เนียลขอเช่าเค้าเอา เพราะ ที่นี่เน้นจักรยานกัน)
ผมว่า หากปั่นแบบเรื่อยๆ ไม่น่าเกิน 2 ชม. น่าจะทั่วเกาะแน่นอน
แนะนำให้จำพิกัดร้านของกินที่เราสนใจไว้ ค่อยเดินมากิน
- เช้าอีกวันออกแต่เช้า เหมาเรือไปเที่ยวเกาะและดำน้ำตื้น (สน๊อกเกิล)
(หากไม่เหมา แล้วเรา ติดเรือไปกับพวกกรุ๊ปทัวว์
แนวประหยัด หารกับฝรั่ง(หน้าไฮ ฝรั่งเยอะ จะสะดวกหน่อย
แต่เราจะกำหนดเส้นทาง และ เวลาในการแวะดำน้ำแต่ละจุดไม่ได้)
ราคาเหมาเรือก็ราวๆ 2,500 เหมือนเดิม
ซึ่งจะไปดำน้ำที่ พีพีเล หินแพ และ เกาะไผ่
ตรงนี้ มีตัวเลือกนิดหนึ่งคือ เวียนขวาของพีพีเล (ดูแผนที่ด้านล่าง)
จะเจอ อ่าวมาหยาก่อน ซึ่งถ้าน้ำขึ้น หาดก็จะสวย แต่ ปะการัง จะไม่ค่อยชัด
ถ้าน้ำลง ก็จะชัดกว่าแต่หาดไม่สวย (ถามคนขับเรือเรื่องเวลาน้ำ ขึ้น-ลง นิดหนึ่ง)
เส้นทางเดินเรือก็จะราวๆ
[เวียนขวา]
อ่าวมาหยา->อ่าวโละซามะ->อ่าวปีเล๊ะ->
[เวียนซ้าย]
แผนที่ประกอบ
———
- อีกวัน ก็กลับฝั่ง
###########
เที่ยวน้ำตกร้อน สระมรกต (ฝั่งคลองท่อม) 1วัน ไม่ค้าง
###########
ออกจากกระบี่มาทางตรัง 90 กิโล
ทั้ง 2 ที่จะอยู่ใกล้ๆกัน แต่น้ำตกร้อนถึงก่อน (พวกทัวว์จะแวะที่นี่ก่อน เพราะ ใช้เวลาน้อย)
*ทริก
- ต้องให้ถึงสระมรกตซักอย่าให้เกิน 8 โมง
เพราะ ไม่งั้น ให้คิดภาพ สระว่ายน้ำขนาดประมาณ 25เมตร ที่ต้องจุนักท่องเที่ยวราวๆ 2-3 คันรถบัส
- ทั้ง 2 ที่ ห้ามนำของกินเข้าไป
(แอบซ่อนๆ ไปได้ ไม่ค้นหรอก/แต่อย่ากินประเจิดประเจ้อ .. มีถังขยะให้ระหว่างทาง)
- จะต้องเดินจากจุดจอดรถไปสระมรกต ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร
- เลยจากสระมรกตขึ้นไปที่ตาน้ำ (600 เมตร)
สวยแต่เล่นไม่ได้ และ ทางเป็นไม้มันผุไปหน่อยระวังพวกตะปูบ้างไรบ้าง – -”
- ส่วนน้ำตกร้อน เดินเข้าไป ราวๆ 50 เมตร
สามารถ แช่เล่นได้ (ค่อยมาแช่เล่น ตอนกลับจากสระมรกตจะเหมาะกว่า)
- จุดเที่ยวตรงนี้ (น้ำตกร้อน) มีร่มไม้ ไม่ร้อน ดังนั้น หากมาเที่ยวกระบี่แล้วฝนตก
แต่ตกไม่หนัก ก็ยังสามารถ เที่ยวได้ เพราะ น้ำจะอุ่นพอดีๆ
###########
ไร่เลย์ 1 วัน ค้างหรือไม่ค้างก็ได้
###########
ไร่เลย์เป็นแหลมออกมา แต่ต้องไปทางเรืออย่างเดียว
(ถ้าพระนาง ตอนที่ไป 4 เกาะ ก็คือไร่เลย์ นะ)
จุดเที่ยวหลักๆ คือ view point, lagoon, หาด, และ ปีนเขา
*ทริก
- ขึ้นเรือที่อ่าวนาง 100 บาท/คน (เหมารู้สึกจะ 700 หรือ 800 นี่แหละ)
- หากไม่ค้างคืนต้องกลับก่อน 5 โมงเย็น ไม่งั้นเรือจะ ช๊าตราคา อีกนิด (หย๋วนๆ ถึง 6 โมงเย็น)
- หากลังเลว่าอาจจะค้าง ก็ซื้อแค่ตั๋วไปอย่างเดียวก็ได้ เพราะ ถ้าตี ไป-กลับ มัน fix ให้กลับของคิวมัน (มีเรือ 3 คิว)
(หาดฝั่งพระอาทิตย์ตก ตอนพระอาทิตย์ตกน้ำก็สวย แต่ถ้าอยุ่ดู = เรือหมด ต้องค้าง)
- ด้านในๆ ของเกาะ มีบังกะโล ราคา 650/คืน (แต่มักเต็มยาวนะ)
ส่วนห้อง จากที่ไปพักมา ห้องแอร์คืนละ 1,700 แต่ไม่เอาอาหารเช้า ลดอีก 200
เหลือ 1,500 และ ตอนนั้น บุคตอน 4 โมงเย็น
เลยลดเหลือ 1,300/คืน
(แต่ห้องเก่าไปหน่อย .. ต้องทำใจว่าห้องพักตามเกาะ จะโทรมไว กว่าฝั่ง เพราะ ดูแลลำบากกว่า)
- มีถ้า + หน้าผาทางฟาก
- ทางขึ้น view point โหดไปสำหรับ คนสูงอายุ
- ทางไป lagoon โหดเกิน (ต้องไต่ผา ด้วยเชือกระยะราวๆ 2-5 เมตร ราวๆ 3 ครั้ง)
พอถึง lagoon ก็ไม่มีอะไรมาก มันคือสระน้ำทะแลขนาดใหญ่กลางเขา
น้ำไม่ไหลหมุนเวียน ไม่มีใครเล่น บรรยากาศวังเวง คนไม่ค่อยไป เพราะทางโหดมาก
***หากไป ตอนปีนขึ้นไปเจอ “ทางแยกแรก”
...ด้านซ้ายจะไป view point (มีป้ายบอก)
...ด้านขวาจะไป lagoon (ไม่มีป้ายบอก)
หากคุณไป viewpoint ก่อน มันจะมีทางไปต่อ
“ห้ามไปต่อเด็ดขาด”
เพราะ จะเจออีกหลายแยก ซึ่ง ผมไปหลงมาแล้ว
แต่ละแยก ไปต่อได้ไกลมาก พอไปให้สุด มันคือ ยอดเขา
(แยกแรก ผมเลี้ยวซ้าย ปีนหน้าผาขึ้นไป .. วิวมันก็ OK สวยเลยแหละ แต่มันลำบากเกิ๊น)
พอกลับมา แล้วเลี้ยวขวา ไปอีกซักพัก จะเจอ แยกอีก
หากไปขวา ก็จะตัน เจอยอดเขาอีก (วิว ก็ OK นะ .. ไม่ลำบากเท่าไหร่)
ทีนี้ ไอ้ทางซ้ายนี่ซิ ยิ่งเดินมันยิ่งเข้าป่า
ผมหลงอยู่นานมาก แถมยังไม่เห็นทีท่าว่าจะสุดทาง จนตัดใจเดินกลับ
แล้ววันนั้น พอกลับมานั่งพักที่ viewpoit ก่อนจะกลับ ดันเจอฝรั่งที่เพิ่งขึ้นมา
ผม : you found lagoon ?
ฝรั่ง : เยส, ไอ ฟิ้นนิ้ช ลากูน
ผม : where is lagoon ?
ฝรั่ง (ชี้นิ้วไปทางที่เราขึ้นมา) : เทรินเลฟ แอ่น ดาวน์ ดาวน์ ดาวน์ (มันทำท่าโหนเชือก)
เลย สรุปประมาณว่า ให้กลับไปแยกแรกที่แมร่งไม่มีป้ายแล้วเลี้ยวไปอีกทาง
จากนั้น เดินไปเรื่อยๆ จะเจอ ทางลง ประมาณ 3 ครั้ง
ซึ่งแมร่ง ต้องโหนเชื่อก ลงจากหน้าผา 3 ครั้ง – -”
สรุปว่า ผมขึ้นไปตอน 9:00 ขากลับผมคลาน+ถดเป็นคนแก่
กลับลงมาถึงทางขึ้นราวๆ บ่าย 3:40 อ่ะ – -”
และ ผมก็ป่วย ตั้งแต่วันที่ 6 กพ. จน วันที่ 2 มีนา.
สำหรับทริปไร่เลย์ ไปหา lagoon ของผม T__T
แผนที่ประกอบ
##########
จริงๆ ยังมี เกาะห้อง เกาะลันตา ท่าปอม คลองม่วง เขาหง๋อนนาค แล้วก็พวก น้ำตก อีกนะ
แต่ผมไม่ค่อยชอบ น้ำตกเท่าไหร่ ..
เลยไม่ review แล้วกัน (จริงๆ คือ เริ่มยาวแล้ว และ ขี้เกียจพิมพ์ ก็เลยขอตัดจบ)
เช่น
- เกาะห้อง (ผมยังไม่เคยไป) จากที่ฟัง ต้องไปให้ถูกจังหวะ น้ำ ขึ้นลง เหมือนกัน
แต่มันไกลจากอ่าวนาง ต้องไปลักไก่ ขึ้นเรือ อีกที่ ถึงจะใกล้
- เกาะลันตา (ผมยังไม่เคยไป) จากที่ฟัง ถ้าหน้าโล เค้าปิดแทบหมด
คนไม่มี แต่ สงบ น่าเที่ยวและพวกฝรั่งมีตังๆ หน่อย จะหนีจากภูเก็ตมาอยู่นี่ซะมากกว่า
(พัทยา,สมุย,ภูเก็ต กลายเป็นที่ๆ ฝรั่งแบ๊คปพคเที่ยวไปแระ)
- ท่าปอมคลองสองน้ำ ตรงนี้เป็นจุดที่น้ำจืดไหลชนน้ำทะเล ผมว่าสวยนะ
ซึ่ง เวลาที่ ราชินีเสด็จมาพักที่ตำหนักหางนาค มักจะเสด็จมาที่นี่เสมอๆ
ทำให้ ที่นี่ผู้ว่าฯ สั่งห้ามเล่นน้ำไปซะแล้ว (แต่ก็ได้ยินว่าเปิดให้เล่นบางโอกาศนะ)
(หากขึ้นเรือจากที่นี่ จะใกล้เกาะห้องมาก)
- หาดคลองม่วง หาดนี้ส่วนมากจะเป็นที่ส่วนตัวของ โรงแรม แถวๆนี้ซะมากกว่า
แล้วก็ ชายหาดเป็นหิน ทำให้ไม่น่าเล่นน้ำ และ ไม่ค่อยมีคนไปเล่น
(แต่เป็นเหมือนที่ส่วนตัว คนไม่เยอะ ฝรั่งที่พักตามโรงแรมโซนนี้จะชอบนอนอาบแดด นะ)
- เขาหงอนนาค เป็นจุดที่มีน้ำตกไหลลงทะเล (ว่ากันว่า ทั้งโลก มีไม่กี่ที่)
ต้องเดินเท้าขึ้นเขาไป 7 กิโล ข้างบนนั้น มีจุดกางเต้น นอนพักได้
ซึ่งจะเห็นวิวมาทางอ่าวนางทั้งหมด (ผมเดินได้ 700 เมตร เป็นลม เลยกลับ T_T)
แต่ผมว่าน้ำตกไม่สวยน่ะ เป็น ธารน้ำเล็กๆ ซะมากกว่า แล้วก็ไม่ค่อยมีคนไปเพราะมันไกล
ดังนั้น ไม่ค่อยแนะให้ไปน้อยคน เพราะเปลี่ยว
ปล. ชาวบ้านเล่าว่า พอถึงเวลา (จำไม่ได้ว่าพวก ขึ้น 15 ค่ำ ไรงี้ป่าว)
ที่ตำหนักหางนาค จะมี พยานาคมาเล่นน้ำ ซึ่งนั่นเป็นแค่ท่อนหาง .. ส่วนท่อนหัวของนาค อยุ่บนยอดเขานี้นี่เอง
(ระหว่าง ตำหนักหางนาค กับ เข้าหง๋อนนาค จะมีบ่อน้ำจืดผุด อยู่ติดน้ำทะเล ชื่อ สะดือพยานาค ด้วย
แต่ผมจำทางไม่ได้แล้ว ว่าเค้าให้คนทั่วไปเข้าไปเที่ยวมั้ย [สมัย 15 ปีที่แล้วนั้น ผมใช้สิทธิ์พ่อเลยเที่ยวได้ทั่ว])
- น้ำตกธารโบก น้ำตกนี้สวยดี แต่ดันอยู่ อีกทิศ (อยู่ทางไปพังงา)
แล้วก็เค้าห้ามเล่นน้ำ ซะแล้ว .. ดังนั้น ถ้าไป ก็ไม่ได้เล่นน้ำ มันเหมือนไปไม่ถึง
No comments:
Post a Comment